เส้นผมของคนเราประกอบไปด้วย สามส่วนหลักๆคือ
1 ชั้นเกล็ดผม
2 ชั้นเนื้อผม (มีส่วนผสมหลักเป็นเคราติน)
3 แกนผม
เส้นผมคนเราประกอบไปด้วยเคราตินมากถึง 90% ซึ่งเคราตินจากธรรมชาตินั้น เราสามารถหาได้จากการกินอาหารจำพวกโปรตีนเป็นหลัก ยิ่งเคราตินมากผมยิ่งสวย
การที่ผมสูญเสียเคราตินเป็นเพราะการทำผมรวมไปถึงเคมีหนักต่างๆเช่น(ยืด ดัด สี) ซึ่งทำให้เนื้อผมหายไปนั้นหมายความว่าเคราตินหายไปด้วย ดังนั้นเคราตินสังเคราะห์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการบำรุงผม
วิธีการทำ Keratin นั้น คือการเพิ่มเคราตินลงชั้นเนื้อผม ซึ่งมีวิธีการผลักเคราตินลงโดยการใช้ความร้อน ซึ่งหลักๆแล้วเป็นการใช้ความร้อนจากการหนีบผม ซึ่งทำให้เกิดปฎิกริยาข้างเคียงคือผมตรงขึ้น ส่งผลทำให้กลุ่มช่างหลายกลุ่มเข้าใจผิด คิดว่าการทำเคราตินนั้นอยู่ในหมวดของการยืดผม
*การยืดผมคือการเปลี่ยนโครงสร้างเส้นผม แล้วมีขั้นตอนการเช็คยืดหยุ่นแล้วหนีบผมตรง*
ข้อดีของการทำเคราตินนั้น ทำให้ผมที่เสียมีคุณภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แต่อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์เคราตินที่ดูแลต่อเนื่องยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ควบคู่ต่อไปด้วย และลค.สามารถมาเติมเคราตินได้อย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน
อย่างไรก็ตามถึงแม้การทำเคราตินั้นช่วยทำให้ผมดีขึ้น แต่หากลค.คาดหวังว่าผมจะนุ่มสวยราวกับผมสวยของดารานางแบบตามโฆษณานั้นคงจะเป็นโฆษณาเกินความเป็นจริงแน่นอน ดังนั้นช่างทำผมที่ดีควรทำความเข้าใจตรงกันกับลค.ในประเด็ณนี้
โดยความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าเทรนของสีผมต่างๆก็จะสร้างสีสันให้กับวงการทุกๆปี แต่หากเราย้อนกลับไปสู่ถึงความต้องการที่สำคัญ นั้นคือผู้หญิงทุกคนล้วนแต่มีความต้องการเดียวกัน นั้นคือ มีผมที่สุขภาพดี และนั้นทำให้เพอร์เฟคเคราตินคือบริการที่ช่างทำผมทุกคนควรให้ความสำคัญ
หน้าที่เข้าชม | 601,536 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 471,836 ครั้ง |
เปิดร้าน | 19 ก.พ. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ก.ค. 2568 |